กิจกรรมบทที่ 6


กิจกรรม(Activity)
    1.  สืบค้นจากหนังสือหรือในระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เรื่อง แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตร
ตอบ 
แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรของไทเลอร์ 
1. ขั้นกำหนดจุดประสงค์ของหลักสูตร
  
    เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ซึ่งได้มาจาก ผู้เรียน สังคม เนื้อหา  เช่น ข้อมูลผู้เรียน ข้อมูลสังคม ข้อมูลเนื้อหาสาระวิชา ข้อมูลที่ได้จากการสังเกตของผู้สอน การสัมภาษณ์ผู้เรียน ผู้ปกครอง ข้อมูลจาก แบบสอบถามและทดสอบของผู้เรียน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ได้นำไป กำหนดจุดประสงค์ประสงค์ จากนั้น ต้องนำข้อมูลทางสังคมและข้อมูลจากท้องถิ่นชุมชนมาวิเคราะห์เพื่อกำหนดความจำเป็นในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนด้วย 
2. ขั้นการกลั่นกรอง 
     มีความจำเป็นที่ต้องใช้พื้นฐานทางด้านปรัชญา และจิตวิทยามาร่วมด้วย ในด้านปรัชญานั้น ผู้สอนควรนำทั้งปรัชญาทางสังคมและปรัชญาทางการศึกษา มาพิจารณาด้วย ซึ่งควรคำนึงถึงพื้นฐานความเป็นมนุษย์ในแต่ละคน ไม่มีข้อจำกัดทางเชื้อชาติ สัญชาติ หรือฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม  การมีโอกาสในการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆของสังคม การให้การสนับสนุนของการเปลี่ยนแปลงมากกว่ามุ่งการตอบความต้องการส่วนบุคล ปัญหาสำคัญต่างๆ ขึ้นอยู่กับความเชื่อ และสติปัญญา มากกว่าขึ้นกับอำนาจรัฐหรือผู้มีอำนาจ ส่วนพื้นฐานทางจิตวิทยา  ซึ่งไทเลอร์ใช้ในการกำหนดกำหนดกรอบโครงสร้างของกระบวนการเรียนรู้อีกด้วย ซึ่งความรู้ทางจิตวิทยานี้สามารถช่วยให้เรามีความคิดเห็นที่แตกต่างในจุดหมายที่เป็นไปได้ในระยะเวลาที่ยาวนาน อีกทั้งยังช่วยให้ความคิดบางอย่างบรรลุผลตามจุดประสงค์ในระยะเวลาที่มีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุ 
3. ขั้นเลือกประสบการการเรียนรู้ 
     หลังจากมีการกำหนดวัตถุประสงค์ การกลั่นกรองข้อมูลแล้ว ไทเลอร์ได้ให้คำแนะนำการ เลือกประสบการณ์การเรียนรู้ ซึ่งแสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับสิ่งแวดล้อมรอบตัว เป็นการบูรณาการประสบการณ์ที่จะช่วยพัฒนาผู้เรียนในด้านต่างๆ เช่น ด้านการคิด ความสนใจ สังคม เป็นต้น 
4. ขั้นการประเมินผล 
     เป็นขั้นประเมินว่าในประสบการณ์จัดการเรียนรู้นั้น บรรลุวัตถุประสงค์หรือไม่ 
แบบจำลองการพัฒนาหลักสูตรของทาบา 
มีอยู่
 7 ขั้นตอน ดังนี้ 
          1.  การวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น เป็นการวิเคราะห์ถึงความต้องการของผู้เรียน สภาพปัญหาต่างๆ กระบวนการในการเรียนรู้ เป็นต้น 
          2. การกำหนดวัตถุประสงค์ เมื่อเราได้ข้อมูลจากการวิเคราะห์ปัญหาต่างๆแล้ว เราก็นำมาเป็นแนวทางในการกำหนดวัตถุประสงค์ 
           3. การเลือกเนื้อหาสาระ ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ อีกทั้ง  คำนึงถึงผู้เรียนด้วย 
          4. การจัดการเกี่ยวกับเนื้อหาสาระ เมื่อมีการคัดเลือกเนื้อหาสาระแล้ว ก็นำมาจัดลำดับให้เป็นระบบ 
          5. การเลือกประสบการณ์ในการเรียนรู้  ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้และคำนึงถึงถึงความเหมาะสม
          6. การจัดการเกี่ยวกับประสบการณ์การเรียนรู้  เป็นการจัดลำดับ ขั้นตอนอย่างเป็นระบบ 
          7. การตัดสินใจว่าจะประเมินอะไรและวิธีการประเมิน ทำให้เราทราบว่าเนื้อหารายวิชามีความเหมาะสมมากน้อยแค่ไหน การพัฒนาหลักสูตรมีประสิทธิภาพมากเพียงใด 

แผนการจัดการเรียนรู้
หน่วยการเรียนรู้ ศาสนากับสังคม                                      มัธยมศึกษาปีที่ 1
เรื่อง หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ                                เวลา 1ชั่วโมง
สาระ/สำคัญความคิดรวบยอด
          การเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในแต่ละศาสนา เพื่อให้รู้และเข้าใจหลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ อันนำมาสู่การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุข
 จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นักเรียนรู้และเข้าใจหลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ
2. นักเรียนสามารถบอกได้ว่าการปฏิบัติตนตามสถานการณ์ต่างๆเหมาะสม/ไม่เหมาะสมกับหลักการปฏิบัติตนทางศาสนา
3. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความจำเป็นในการเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ 
สาระการเรียนรู้
หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ 
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ความสามารถในการคิด
 - ทักษะการคิดวิเคราะห์
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- กระบวนการปฏิบัติ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงานชิ้นงาน
ภาระงาน : อภิปรายกลุ่ม เรื่องความจำเป็นในการเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ 
การวัดและประเมินผล
ประเด็นการประเมิน
วิธีการวัด
เครื่องมือที่ใช้วัด
เกณฑ์การประเมิน
1. นักเรียนรู้และเข้าใจหลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ
ทำแบบทดสอบ
แบบทดสอบ
นักเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆที่ถูกต้องและเหมาะสม
2. นักเรียนสามารถบอกได้ว่าการปฏิบัติตนตามสถานการณ์ต่างๆเหมาะสม/ไม่เหมาะสมกับหลักการปฏิบัติตนทางศาสนา
กิจกรรม
สถานการณ์สมมติ
นักเรียนบอกได้ว่าการปฏิบัติตนตามสถานการณ์ต่างๆเหมาะสม/ไม่เหมาะสมกับหลักการปฏิบัติตนทางศาสนา
3. นักเรียนสามารถวิเคราะห์ความจำเป็นในการเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ 
อภิปรายกลุ่ม
แบบประเมินกิจกรรมกลุ่ม
นักเรียนวิเคราะห์ความจำเป็นในการเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆได้
4. นักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในด้านความมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน
สังเกตพฤติกรรม
แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน
นักเรียนร้อยละ80 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์คือ มีระเบียบวินัยในตนเอง ทำงานส่งตรงเวลา มีความใฝ่เรียนรู้ในการเรียน และมุ่งมั่นทำงานที่ได้รับมอบหมาย

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน
1. ครูทักทายนักเรียน
2. ครูนำเข้าสู่บทเรียนโดยการนำบัตรภาพ เรื่อง ความแตกต่างของแต่ละศาสนา เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนได้เห็นถึงความแตกต่างของแต่ละศาสนา
ขั้นสอน
1. ครูสอบถามผู้เรียนเกี่ยวกับหลักปฎิบัติตนในศาสนาต่างๆที่นักเรียนรู้
2. ให้นักเรียนตั้งคำถามเกี่ยวกับเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆที่นักเรียนต้องการรู้
3. ครูบรรยายเรื่องเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ โดยใช้ ป้ายนิเทศเรื่อง หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ
4. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกลุ่มละ 5-6 คน ครูถามคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติตนตามสถานการณ์ต่างๆว่าเหมาะสม/ไม่เหมาะสม อย่างไร
5. ถ้านักเรียนกลุ่มใดต้องการตอบคำถามในข้อนี้ให้ยกป้ายเลขกลุ่ม หากตอบถูกจะได้รับคะแนน 1 คะแนน หากตอบผิด จะหมดสิทธิ์ตอบในข้อนั้น
6. เมื่อครูถามคำถามหมดทุกคำถาม ให้แต่ละกลุ่มรวมคะแนน กลุ่มใดได้คะแนนมากที่สุดเป็นผู้ชนะ และได้รับรางวัลจากครูผู้สอน
7. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์ความจำเป็นในการเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ 
8. ครูสรุปความจำเป็นในการเรียนรู้หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ 
9. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบ เรื่อง หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ
10. ครูและนักเรียนช่วยกันตรวจแบบทดสอบเรื่อง หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ
ขั้นสรุป
11. ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปหลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ
12. ครูให้นักเรียนซักถามข้อสงสัย
สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้
1. บัตรภาพ เรื่อง ความแตกต่างของแต่ละศาสนา
2. ป้ายนิเทศเรื่อง หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ
3. แบบทดสอบเรื่อง หลักการปฏิบัติตนในศาสนาต่างๆ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น